วิธีเลือกโคมไฟ โคมไฟหัวเตียง โคมไฟอ่านหนังสือ โคมไฟตกแต่ง ควรเลือกอย่างไร?

วิธีเลือกโคมไฟ โคมไฟหัวเตียง โคมไฟอ่านหนังสือ โคมไฟตกแต่ง ควรเลือกอย่างไร?

หากจะกล่าวถึงโคมไฟว่ามีแบบไหนบ้างนั้น คงจะตอบได้อย่างชัดเจนว่าโคมไฟก็มีหลายๆ แบบ ทั้งแบบติดเพดาน เพื่อความสวยงามของบ้านหรือแบบติดผนังเพื่อให้แสงสว่างรอบด้าน ตามทางเดินของบ้านทั้งบริเวณภายในบ้านและนอกบ้าน รวมถึงโคมไฟสำหรับตั้งโต๊ะรวมถึงตั้งพื้นเพื่อประโยชน์ต่างๆ กัน ดังเช่น การใช้งานของโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือ ที่ทุกบ้านคงจะต้องหาซื้อไว้สำหรับการใช้ประโยชน์ในการให้แสงสว่างไว้สำหรับอ่านหนังสือในมุมต่างๆ ทั้งมุมห้องทำงานหรือมุมห้องนั่งเล่น สำหรับบทความนี้ เราจึงขอนำเสนอเทคนิควิธีการเลือกซื้อโคมไฟให้เหมาะกับบริบทการใช้และบริเวณต่างๆ กันค่ะ

โคมไฟสำคัญอย่างไร?

โดยหลักๆ แล้วการติดตั้งโคมไฟไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของบ้าน สิ่งที่สำคัญคือการสร้างความสว่างให้กับบริเวณโดยรอบและเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้เมื่อจะกล่าวถึงสิ่งที่คอยให้แสงสว่างชนิดนี้แล้ว เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามันเป็นของตกแต่งบ้านที่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์อยู่ในตัวเองได้อย่างไม่แพ้ของตกแต่งชนิดอื่นๆ เลย เพราะนอกจากจะให้แสงสว่างแล้วนั้น หากเราเลือกดีไซน์สวยๆ ก็จะสามารถกลายเป็นของตกแต่งที่สร้างภาพลักษณ์ให้บ้านน่าอยู่มากขึ้นทีเดียวค่ะ

โคมไฟที่ดีควรมีลักษณะยังไง?

ปัญหาสุดคลาสของคนที่มีโคมไฟเลยก็คือ แสงจากโคมไฟชอบรบกวนสายตา ปัญหานี้มักเกิดจากที่เราตั้งในระดับความสูงที่ไม่ถูกต้องและเข้าตาได้ง่าย สองคือเราเลือกหลอดไฟที่แสงสว่างมากเกินไป สามก็คือครอบของโคมไฟของเรานั้นมีปัญหา

ดังนั้น โคมไฟที่ดีควรมีสีที่สบายตา ประหยัดไฟ  มีประสิทธิภาพ และมีลักษณะการใช้งานที่เหมาะกับกิจกรรมของเราด้วยนั่นเอง

หลอดไฟโคมไฟ ควรใช้กี่วัตต์

ยังคงเป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัยว่า โคมไฟ ควรใช้กี่วัตต์จึงจะดูพอดีและไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป โดยการเลือกวัตต์ของโคมไฟนั้นจะขึ้นอยู่กับว่า เราเอาโคมไฟไปตั้งไว้ที่บริเวณใด หรือนำมาใช้ในจุดประสงค์ใดเป็นหลักค่ะ เช่น หากเราอยากมีโคมไฟไว้อ่านหนังสือสักตัว การเลือกสี ชนิดของหลอดไฟและวัตต์ของมันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะสีของหลอดโคมไฟนั้น มีหลากหลายมากๆ นั่นเอง แต่หากเราจะเน้นเรื่องวัตต์กันก่อนนั้น หลอดโคมไฟไม่จำเป็นต้องใช้วัตต์ที่สูงมาก เช่น ลองให้จินตนาการดูว่า หากเราใช้หลอดไฟด้วยวัตต์ที่สูงจนเกินไป ก็เปรียบเสมือนเรานั่งอ่านหนังสือกลางแดดจ้าเท่านั้นเอง ดังนั้น อาจจะพิจารณาเป็น 4-7 วัตต์ก่อน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระยะห่างของโคมไฟด้วยนั่นเองค่ะ

สีของหลอดโคมไฟ ต่างกันอย่างไร

การเลือกแสงของหลอดไฟนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนอกเหนือจากการเลือกสีให้เหมาะกับจุดประสงค์แล้ว สีของหลอดไฟก็สามารถสร้างความรู้สึก อารมณ์ สร้างบรรยากาศให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้ มีส่วนช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายพักผ่อนได้อย่างสบาย หรือแม้แต่ทำให้รู้สึกอยู่ในบรรยากาศอบอุ่นได้

ซึ่งสีของแสงไฟสามารถวัดเป็นค่าอุณหภูมิได้ เรียกว่าหน่วยเคลวิน จะไล่ในระดับเริ่มต้นจากแสงโทนส้ม ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ไปจนถึงระดับค่าอุณหภูมิสูง มักจะเป็นโทนสีฟ้า ให้ความรู้สึกสดใส ช่วยปลุกร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า

หลอดไฟ Warm White

หลอดไฟวอร์มไวท์ (Warm white) มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 2,000 – 3,000 เคลวิน ให้แสงสีเหลืองเข้ม ไปจนถึงสีส้ม ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น โรแมนติก ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ทั้งยังเป็นแสงไฟที่สบายตาที่สุด

หลอดไฟ Cool White

หลอดไฟคูลไวท์ (Cool white) มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 4,000 – 5,000 เคลวิน ให้แสงสีขาวในโทนอุ่น มีความนวล ความสว่างจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง หลอดไฟวอร์มไวท์ กับ หลอดไฟเดย์ไลท์ เป็นแสงไฟที่ให้ความสบายตา ทั้งยังให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา

หลอดไฟ Daylight White

หลอดไฟเดย์ไลท์ (Daylight) มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 6,000 เคลวิน ให้แสงสีขาวที่เหมือนแสงในธรรมชาติ ถือเป็นแสงสีที่สว่างมากที่สุด ช่วยให้มองเห็นได้ชัด ทั้งยังให้ความรู้สึกสดใส กระปรี้ประเปร่า ช่วยให้กระฉับกระเฉง และรู้สึกตื่นตัวค่ะ

โคมไฟแขวน โคมไฟตั้งพื้น โคมไฟตั้งโต๊ะ ต่างกันยังไง ?

จากที่กล่าวไว้ข้างต้น และเป็นที่ทราบกันดีว่าโคมไฟนนั้นมีหลายแบบและหลายประเภทของเราได้เลือกตามความสะดวกและตรงกับการใช้งาน ซึ่งบ้างก็เป็นโคมไฟสำหรับบริเวณนอกบ้าน และบ้างก็เป็นโคมไฟที่ใช้ภายในบ้าน ซึ่งหากจะถามว่าโคมไฟแขวน โคมไฟตั้งพื้น โคมไฟตั้งโต๊ะ ต่างกันยังไงนั้น คำตอบที่เห็นได้ชัดที่สุด คือนอกจากพวกมันจะมีรูปร่างหน้าตาที่ต่างกันแล้ว การเลือกจุดที่จะนำพวกมันไปวางก็แตกต่างกันอีกด้วย เช่น โคมไฟตั้งพื้น เหมาะกับห้องนั่งเล่น เนื่องจากห้องนั่งเล่นเป็นบริเวณส่วนรวม โคมไฟที่คุณจะเลือกมาใส่ในห้องนี้จะเป็นโคมโฟที่ทุกคนเดินเข้ามาในบ้านต้องเห็น ใช้โคมไฟตั้งพื้นสำหรับแสงโดยรอบ เสริมกันด้วยโคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับไฟเสริม เป็นต้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงต้องรู้หลักและวิธีเลือกโคมไฟให้เหมาะตามลักษณะการใช้งาน เพราะแม้จะมีหลายรูปแบบ แต่จุดประสงค์ในการใช้งานพวกมันนั้นอาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ

วิธีเลือกโคมไฟตามลักษณะการใช้งาน

ห้องหรือบริเวณที่ต่างกันก็ต้องใช้โคมไฟที่ต่างกัน ในบางห้องนั้นเราต้องการให้โคมไฟส่องแสงไปทั่วห้อง ห้องอื่นๆ เราอาจจะต้องการแสงไฟขนาดเล็ก บางจุดโดยเฉพาะ บางครั้งเราอาจต้องการแสงไฟเข้ากับการตกแต่งของบ้าน ในขณะที่ครั้งอื่นๆ เราแค่ต้องการให้แสงไฟดูโดดเด่นเป็นส่วนหนึ่งในการตกแต่ง ดังนั้น เราจะเลือกอย่างไรดี ให้ทั้งสวยและเหมาะกับการใช้งานในแต่ละห้อง?

โคมไฟหัวเตียง

การเลือกขนาดของโคมไฟ ควรเลือกให้พอเหมาะกับห้องนอน เป็นความสมดุล อาจจะดูง่ายๆ ว่าเตียงนอนเรากว้างเท่าไหร่ โต๊ะที่ใช้วางข้างๆ ก็ควรจะกว้างตามไปด้วย แบบเดียวกัน หากเราเลือกโต๊ะวางข้างๆ ก่อน ก็ควรเลือกโคมไฟที่มีขนาดความกว้างที่สมดุลกับโต๊ะเช่นกัน โดยปกติแล้ว ความกว้างของโต๊ะควรจะเป็นหนึ่งในสามหรือสองในสามของความกว้างของเตียงนอน สำหรับโคมไฟที่ใช้คู่กันก็ควรจะเป็นหนึ่งในสามของความกว้างของโต๊ะ เพื่อให้ดูมีความสมดุลค่ะ

โคมไฟอ่านหนังสือ

ไฟที่ใช้สำหรับการอ่านหนังสือ ควรใช้แสงธรรมชาติที่ไม่สว่างเกินไป ไม่ควรเลือกแสงสีขาว หรือสีเหลืองจนเกินไป เพราะแสงแบบนี้จะแยงตาไม่เหมาะกับการอ่านหนังสืออีกทั้ง ควรเลี่ยงแสงสว่างจ้าเกินไป เพราะสายตาเสีย และไม่ควรมืดเกินไปเพราะจะทำให้ต้องเพ่ง ทำให้สายตาอ่อนล้าเอาได้ สำหรับหลอดของโคมไฟอ่านหนังสือนั้น ก็มีอีกหลายแบบ เช่น หลอดไส้ หลอดตะเกียบ หลอดเกลียว และหลอด LED ซึ่งพวกมันก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป สิ่งสำคัญคือเรื่องสีหลอดไฟที่ควรใช้นั่นคือ แสงสีนวล (warm white) ซึ่งโคมไฟอ่านหนังสือทั่วๆ ไปจะใช้หลอดไส้ แต่ตัวหลอดจะออกสีฟ้าๆ ที่เป็นแบบนี้เพราะ หลอดไส้จะให้แสงสีเหลือง พอแสงตัดกับผิวหลอดที่เป็นสีฟ้า สีจะเปลี่ยนเป็นเหลืองอ่อนเหมาะสมกับการอ่านหนังสือที่สุดนั่นเองค่ะ

โคมไฟโต๊ะทำงาน

สำหรับห้องทำงาน นอกจากการติดตั้งหลอดไฟที่เพดานเพื่อให้แสงสว่าง ที่จะถนอมดวงตาและป้องกันความอ่อนล้าแล้ว การติดโคมไฟผนัง หรือโคมไฟตั้งพื้นก็จะช่วยทำให้บรรยากาศในห้องดีขึ้น เอื้อบรรยากาศในการทำงานอย่างไม่เคร่งเครียดเกินไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โคมไฟตั้งโต๊ะแบบที่มีแขนปรับได้ เพื่อไม่ให้แสงจ้าจนเกินไป อีกสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงและลืมไม่ได้เลยคือ ตำแหน่งทิศทางการตั้งโคมไฟตั้งโต๊ะ ควรตั้งไว้ตรงข้ามมือข้างที่ถนัดสามารถป้องกันเงาได้ หากเราถนัดขวาก็ควรวางโคมไฟตั้งโต๊ะไว้ด้านซ้าย หากถนัดซ้ายก็ให้วางไว้ด้านตรงข้าม จะเป็นการจัดแสงที่สนับสนุนการทำงานของเราได้มากกว่าค่ะ

โคมไฟในห้องครัว

ห้องครัวเป็นห้องที่เราต้องใช้ทำอาหารซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยความละเอียดและยังต้องระมัดระวังเวลาใช้เครื่องครัวต่างๆ เพราะฉะนั้นการเลือกโคมไฟจึงต้องเน้นแสงไฟที่สว่างเพียงพอ เน้นการให้ความสว่างเป็นหลักเพื่อช่วยให้มองเห็นข้าวของได้ชัดเจน นอกจากหลอดไฟปกติในห้องครัวแล้ว อาจเลือกโคมไฟแบบดาวน์ไลท์ติดผนังหรือติดในส่วนเคาน์เตอร์ทำครัวเพิ่มก็ได้ เพื่อให้เรามองเห็นได้ชัดเจนขึ้นเวลาต้องทำอาหารนั่นเองค่ะ

โคมไฟในห้องอาหาร

สำหรับห้องอาหารนั้น นอกจากเรื่องความสว่างที่ควรมีเพียงพอ สิ่งสำคัญคือการสร้างบรรยากาศให้กับคนในครอบครัวที่มาทานอาหารร่วมกันได้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งก่อนอื่นเราจะต้องพิจารณาก่อนว่าโต๊ะอาหาร เก้าอี้  และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในห้องอาหารของเรานั้นมีลักษณะอย่างไร เป็นสไตล์ไหน นอกจากนี้เรายังต้องคิดถึงความกว้างของห้องอาหาร ความสูงของเพดาน จะได้คำนวณความสว่างของแสงไฟที่เหมาะสม หลังจากนั้นเราควรจะเลือกติดตั้งโคมไฟให้อยู่ตรงกลางของโต๊ะอาหาร แสงสว่างจะได้กระจายได้อย่างทั่วถึงและมีระยะที่ห่างจากโต๊ะทานอาหารมากพอที่จะไม่ให้ใครชนเข้านั่นเองค่ะ

โคมไฟตกแต่ง

สำหรับการเลือกโคมไฟตกแต่งนั้น ค่อนข้างมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นตัวกำหนดในการนำมาพิจารณา เช่น สถานที่หรือห้องที่ต้องการตกแต่ง แสงสว่างที่ต้องการ ประเภท สีของหลอดไฟ รวมไปจนถึงสไตล์ที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีลักษณะของตัวโคมไฟที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ดูมีเอกลักษณ์ ความสวยงาม และการใช้งาน เช่น

แบบติดบนระนาบฝ้าเพดาน

เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันทั่วไป เพราะติดตั้งง่าย และให้แสงสว่างกับห้องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

แบบห้อยหรือแบบแขวน

ใช้กับห้องที่มีเพดานสูงกว่าปกติ หรือใช้ตกแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม นิยมในห้องรับประทานอาหาร และห้องรับแขก

โคมไฟติดผนัง

ใช้กับการตกแต่งห้องไหนก็ได้ โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้กับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือหน้าระเบียงบ้าน เป็นต้น

แบบติดตั้งบนราง

ใช้ตกแต่งได้กับทุกห้อง ทุกสถานที่ และสามาถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

อย่างไรก็ดี โคมไฟเป็นอุปกรณ์สำหรับให้แสงสว่างและการตกแต่งที่เหมาะกับการนำมาใช้ตกแต่งห้องต่างๆ ภายในบ้านมากที่สุด แต่ต้องเลือกให้เหมาะสม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโคมไฟตั้งพื้น หรือโคมไฟเพดาน หากเลือกได้เหมาะก็จะช่วยเสริมความโดดเด่นและให้แสงสว่างที่เพียงพอกับห้องนั้นๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มเสน่ห์และความน่าอยู่ให้กับบ้านได้มากกว่าเดิมอีกด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมเลือกตกแต่งให้เหมาะกับบ้านและตัวตนของเรานะคะ