เปิดไฟทั่วบ้านอย่างไรให้ประหยัด วิธีประหยัดไฟแบบจ่ายค่าไฟก็เหลือทอน!
ในยุคสมัยที่สิ่งของ ค่ากิน ค่าอยู่และค่ารักษาสุขภาพแพงไปหมดแบบนี้ เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บมากที่สุดก็คือการพึ่งเทคนิควิธีประหยัดไฟ แต่การใช้ไฟฟ้าก็เป็นสิ่งจำเป็นยิ่งครอบครัวไหนอยู่กันหลายๆ คน ยิ่งควบคุมการใช้ไฟฟ้าได้ยากขึ้นไปอีก วันนี้เราจึงมีเทคนิคประหยัดไฟแบบได้ผลจริง สามารถใช้งานได้จริง แบบที่ว่าเปิดไฟทั่วบ้านเงินก็ยังเหลือให้ฟังกันค่ะ
วิธีประหยัดไฟที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง!
เลือกประเภทของหลอดไฟให้ดี
การเลือกชนิดของหลอดไฟเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมาก เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นหลอดไฟเหมือนกัน แต่อัตราการกินไฟฟ้าต่างกันอย่างมาก ซึ่งหลอดไฟที่เหมาะสำหรับนำมาใช้เพื่อช่วยให้ประหยัดไฟก็คือ “หลอดไฟ LED” ซึ่งข้อดีของหลอดไฟ LED นั้นก็มีอยู่มากมายเลยค่ะ เช่น
- มีอายุการใช้งานนาน ซึ่งหากเทียบกับกับหลอดไฟทั่วไปอย่างหลอดตะเกียบแล้วหลอดไฟหลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานสูงกว่าถึง ทั่วไปเกือบ15,000 ชั่วโมง ในขณะที่หลอดไฟทั่วไปหรือหลอดตะเกียบนั้นมีอายุการใช้งานเพียง 6,000 ชั่วโมง ด้วยอายุการใช้งานที่ใช้ได้นานกว่าจึงช่วยให้ประหยัดไฟค่าไฟและประหยัดเงินค่าซื้อหลอดไฟเปลี่ยนบ่อยๆ อีกด้วย
- ความสว่างที่มากกว่า หากทุกคนเทียบความสว่างของหลอดไฟ LEDกับหลอดไฟทั่วไปอาจจะรู้สึกว่า ความสว่างของทั้งคู่ก็อาจจะดูสูสีไม่แตกต่างกันสักเท่าไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปหรือใช้เป็นเวลานานจะพบว่า หลอดไฟ LED มีข้อได้เปรียบที่สามารถคงความสว่างที่ยาวนานมากกว่า สีไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ทำให้ปวดตา
- ราคาหลอดไฟ LED ถูกกว่าหลอดตะเกียบและหลอดไฟทั่วไป โดยการเฉลี่ยแล้วหลอดไฟ LED จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 90-100 บาทต้นๆ ส่วนหลอดไฟอื่นๆ จะอยู่ที่ 150-200 บาท
- หลอดไฟ LED เป็นหลอดไฟที่ปราศจากรังสี อัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานในระยะยาว
เลือกสีของหลอดไฟให้เหมาะกับการใช้งาน
สีของหลอดไฟนั้นส่งผลอย่างมากต่อระบบสายตาและการมองเห็นของมนุษย์ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยประสบเหตุการณ์นี้มาก่อนแน่ๆ ที่เปิดไฟแล้วรู้สึกว่าปวดหัว ปวดตาเพราะรู้สึกว่ามัรนยังไม่สว่างยังที จนต้องเปิดไฟดวงอื่นๆ ในห้องจนครบทุกดวง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้อาจเกิดจากการเลือกสีของหลอดไฟไม่ถูกต้องกับการใช้งาน ดังนั้นหากต้องการห้องรับแขก หรือห้องนอน ควรใช้สีของหลอดไฟเป็นแบบโทนสี Warm White แต่หากเป็นห้องที่จำเป็นต้องทำกิจกรรมหรือต้องใช้สมาธิสูงๆ เช่น ห้องทำงาน ห้องทำการบ้าน ห้องสมุด ห้องหนังสือ หรือแม้แต่ห้องครัว ควรหลอดไฟโทนสี Cool Day Light หรือ Daylight White
งดการเปิดไฟในช่วงกลางวัน
เนื่องจากตอนกลางวันนั้นเราสามารถใช้ประโยชน์จากแสงแดดธรรมชาติได้ ด้วยการเปิดม่าน เปิดหน้าต่างเพื่อให้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาในบ้าน ซึ่งข้อดีที่นอกจากจะได้แสงสว่างแบบไม่ต้องเสียเงินแล้ว ยังช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้ดี ลดกลิ่นเหม็นในบ้าน และแสงแดดอ่อนๆ ยังช่วยฆ่าเชื้อราบนเฟอร์นิเจอร์ได้ดีอีกด้วย
เลือกเวลาครอบครัว
สำหรับครอบใหญ่ที่ในบ้านมีสมาชิกในครอบครัวหลายๆ คน ควรจะเลือก Family Time หรือเวลาครอบครัวที่สามารถให้คนในครอบครัวมีกิจกรรมทำร่วมกัน อาจจะดูทีวีร่วมกัน หรือพูดคุยกันในห้องโถงใหญ่ห้องเดียว เพื่อลดอัตราการใช้ไฟฟ้าให้น้อยลง เพราะหากทุกคนในครอบครัวแยกไปใช้ห้องส่วนตัวก็ต้องเปิดไฟมากกว่า 1 ดวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหาเวลาพาทุกคนลงมาใช้เวลาว่างแบบรวมกันในเวลาครอบครัวจะดีที่สุด และช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคนในบ้านให้แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วยค่ะ
ตั้งเวลาเปิด – ปิดไฟ
สำหรับหลอดไฟรุ่นใหม่บางรุ่นจะมีระบบปฏิบัติการที่ช่วยให้เจ้าของบ้านตั้งเวลาเปิด – ปิดไฟได้อย่างง่ายดาย ซึ่งไฟที่เหมาะสำหรับการตั้งเวลามากที่สุดก็คือ ไฟบริเวณหน้างาน ไฟนอกบ้านและไฟในสวน เนื่องจากในเวลากลางคืนหากจะงดการเปิดไฟแล้วปิดสนิทไปเลยก็อาจจะทำให้ตัวบ้านดูมืด อึมครึม จนเพื่อนบ้านเข้าใจผิดว่าเป็นบ้านผีสิงไม่มีคนอยู่หรือบ้านร้างไปได้ ทำให้ต้องเปิดไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ว่าการเปิดทิ้งไว้ทั้งคืน แล้วกว่าจะมาเปิดอีกทีก็ช่วงสายๆ ของอีกวันแล้วก็เป็นการสิ้นเปลืองไฟ ดังนั้นการตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟจึงช่วยให้คุณสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องลุกขึ้นมาปิดและไม่ต้องจ่ายค่าไฟอย่างสิ้นเปลืองด้วย เช่น ตั้งให้เปิดทุกเวลา 19.00 น. และปิดทุกเวลา 05.00 น.
การใช้ไฟอัตโนมัติ
หากต้องการให้การใช้ไฟช่วยให้ประหยัดไฟมากขึ้น เจ้าของบ้านสามารถเลือกใช้งานหลอดไฟชนิดเปิด – ปิดแบบอัตโนมัติ คือ เมื่อมีคนเดินเข้าไป เซนเซอร์ของระบบในหลอดไฟก็จะจับได้และไฟจะสว่างทันที และหากไม่มีคนอยู่ไฟฟ้าจะดับเองอัตโนมัติ วิธีนี้จะช่วยให้เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวสามารถใช้ไฟได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องค่อยเปิดๆ ปิดๆ และยังช่วยประหยัดไฟอีกด้วย
เลือกใช้หลอดไฟที่ปรับได้
หลอดไฟที่สามารถปรับการใช้งานได้ตามเจ้าของบ้านความต้องการ เช่น หลอดไฟสามารถหรี่ไฟเองได้ สามารถปรับเปลี่ยนโทนสีของแสงได้ จะช่วยให้ความสะดวกและประหยัดไฟมาก เพราะทำให้เจ้าของบ้านสามารถใช้งานไฟหลอดนึงได้หลากหลายฟังก์ชันโดยไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟใหม่บ่อยๆ
สรุปได้ว่าการเลือกซื้อหลอดไฟที่ดีสามารถช่วยให้มีชัยช่วยประหยัดไฟไปได้มากกว่าครึ่ง แต่อย่างไรก็ตามจะเป็นการเลือกใช้หลอดไฟก็ดี ปรับโทนสีแสงได้ก็ดี สิ่งที่สำคัญที่สุกคือการเลือกหลอดไฟที่มีกำลังวัตต์ที่เหมาะสมต่อกรใช้งานของห้องนั้นๆ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะหากเลือดหลอดไฟที่มีกำลังวัตต์สูงเกินไปต่อการใช้งานก็จะทำให้ต้องจ่ายค่าไฟเยอะเกินความจำเป็น ทางที่ดีก่อนซื้อควรศึกษาหรือปรึกษาช่างไฟก่อนทุกครั้งจะดีที่สุด